บอกตำแหน่งธุรกิจคุณบนแผนที่ Google!
การมีเว็บไซต์สำหรับธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญ แต่ สำคัญกว่านั้นคือการบอกตำแหน่งของธุรกิจคุณบนแผนที่ Google เพื่อการค้นหาที่ง่ายยิ่งขึ้น
ในปัจจุบันโทรศัพท์แบบสมาทโฟนและคอมพิวเตอร์แบบพกพาถูกใช้อย่างแพร่หลาย และแน่นอนว่าแผนที่ Google ก็ถูกใช้ในอุปกรณ์ออนไลน์เหล่านั้นด้วย ทำให้การบอกสถานที่ธุรกิจร้านค้าต่างๆบนกูเกิลจึงมีความสัมคัญไม่น้อย เช่น หากคุณต้องการหาโรงแรมบนกูเกิล คุณก็แค่พิมม์คำว่า “โรงแรม” ลงไปแล้วชื่อ ที่อยู่ การเดินทางไป ก็จะปรากฎบนกูเกิลทันที
การเพิ่มสถานที่ให้ธุรกิจคุณนั้น ง่ายนิดเดียว เพียง
ไปที่ หน้าเพิ่มสถานที่ของ Google แล้วเปิดบัญชีผู้ใช้กับกูเกิล
เพิ่มธุรกิจคุณลงในรายชื่อสถานที่ของ Google ได้โดยเริ่มจาก เลือกชื่อประเทศ และกรอกเบอร์โทรศัพท์ ของธุรกิจคุณ โปรดจำไว้ว่าเบอร์โทรศัพท์จะปรากฎบนแผนที่ Google ทั่วโลก ฉะนั้นอย่ากรอกเบอร์บ้าน หรือเบอร์ส่วนตัวลงไป แต่ต้องกรอกเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้จริง
จากนั้นกรอกข้อมูลธุรกิจที่เป็นจริงเช่น ที่อยู่ เวลาเปิดทำการ คำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ และจากนั้นคุณจำเป็นต้องยืนยันว่าเบอร์โทรของธุรกิจคุณสามารถใช้ได้ โดยกรอกเบอร์โทรแล้วรอรับรหัส sms จากกูเกิล แล้วนำไปกรอกในกูเกิลอีกครั้ง
หลักการพื้นฐานของการปรับแต่งสถานที่บน Google ของคุณ เพื่อการค้นหาที่ได้ผล
โดยทั่วไปแล้ว การมีสถานที่มากกว่าหนึ่งที่นั้น เป็นความคิดที่ไม่ดีนัก
- ค้นหาสถานที่จากเบอร์โทรศัพท์: โดยทั่วไปแล้วการค้นหาสถานประกอบการของกูเกิลนั้น มักจะใช้เบอร์โทรศัพท์เป็นเครื่องมือค้นหา ซึ่งหากธุรกิจของคุณมีเบอร์โทรศัพท์อยู่แล้วก็สามารถนำมากรอกลงไปในรายละเอียดธุรกิจได้ เพื่อการติดต่อค้นหา และจะเป็นผลพลอยได้ที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจคุณ
- การหาสถานที่คุณบนกูเกิลด้วยที่อยู่: หากคุณทำธุรกิจสองอย่างในสถานที่เดียวกัน กรุณากรอกแค่ธุรกิจเดียว หากคุณกรอกทั้งสองธุรกิจโดยมีที่อยู่เดียวกันอาจถูกลบออกเพราะจะทำให้ผู้ค้นหาสับสนได้
- การหาสถานที่ด้วยชื่อ: การค้นหาธุรกิจของคุณด้วยชื่อก็เป็นอีกวิธีที่ดี นอกเหนือจากการค้นหา ด้วย เบอร์โทร และที่อยู่ เพราะในกรณีที่กรอกที่อยู่ หรือเบอร์โทรผิด ชื่อจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับการค้นหา
อย่างไรก็ตามโปรดแน่ใจว่าคุณกรอกรายละเอียดอย่างน้อยหนึ่งอย่างเกี่ยวกับธุรกิจคุณลงบน สถานที่ของ Google หากคุณยังไม่ได้ทำ เลือกทำสิ่งที่จะส่งผลต่อการค้นหาบนหน้ากูเกิล คำแนะนำด้านบนจะทำให้ผลการค้นหาเว็บคุณบนหน้าเว็บกูเกิลดีขึ้น และจะทำให้คุณปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆได้ยิ่งดีขึ้น
เมื่อต้องการลบเนื้อหาที่รวมๆ กันอยู่ออกจาก Google Analytics คุณจะต้องติดต่อ กูเกิลเพื่อดำเนินการ โดยคลิกที่ duplicate listing และ คลิก More ในเมนูการตั้งค่า หรือเลือก Report Problem (แจ้งปัญหาการใช้งาน) และ report a duplicate listing ได้ แล้วส่งลิงค์หน้าที่คุณอยากลบไป เพื่อให้ระบบดำเนินการ อย่าลืมว่า ขั้นตอนทั้งหมดนี้ จะถูกตรวจสอบโดยกูเกิลก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความยุ่งยากให้ทีมงาน Google ผลคือ คุณอาจถูกแบน หรือตัวคุณอาจถูกลบจากระบบได้
ตรวจทานให้แน่ใจว่าคุณกรอกข้อมูลที่จำเป็นอย่างครบถ้วน
เพราะกูเกิลจะให้สิทธิสถานที่ที่ให้ข้อมูลครบก่อน การกรอกที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ เป็นสิ่งที่ดี แต่ อะไรคือสิ่งที่กูเกิลอยากจะเห็นจากข้อมูลของสถานที่จริงๆ
- คุณสามารถใส่รูปได้มากกว่า 10 รูป ใช้การใส่รูปให้เป็นประโยชน์ที่สุด ใส่รูปร้าน และสินค้าเพิ่มคลิปวิดิโอ YouTube ลงไปได้ 5 คลิป, ลองเลย!
- ใส่เวลาทำการของธุรกิจคุณ
- ใช้คีย์เวิร์ดให้หลากหลาย จัดกลุ่มร้านของคุณหากคุณคิดว่าเหมาะสม
อย่าใส่คีย์เวิรด์อื่นที่เป็นคำประกอบลงไปในหัวข้อ หรือช่องสำหรับใส่คีย์เวิร์ด
ตัวอย่างเช่น หากคุณเปิดร้านขายตู้เย็น ชื่อ Jerry's Refrigerators
ชื่อใน Google Place ก็ควรจะเป็น Jerry's Refrigerators
ไม่ควรจะตั้งเป็น Jerry's Refrigerators แล้วตามด้วย Hitachi, Samsung, Maytag, Cheap prices(ร้าน ตู้เย็นของเจอรี่ แล้วมีคำว่า ฮิตาชิ, ซัมซุง, เมย์แท็ก, ราคาถูก ต่อท้าย)
นี่อาจทำให้ชื่อธุรกิจคุณถูกแสดงในลำดับต้นๆของการค้นหา ขณะเดียวกันก็สามารถทำให้ผลการค้นหาแสดงได้ในลำดับท้ายๆเช่นกัน มันไม่ง่ายเลยหากคุณต้องการจะใส่คีย์เวิร์ดประกอบ คีย์เวิร์ดหลัก
สุดท้าย Google Place จะมีช่องให้ผู้ใช้เขียนวิจารณ์ได้ เพื่อประโยชนทางธุรกิจ
การเขียนรีวิว หรือเขียนวิจารณ์นั้นจะช่วยแสดงให้กูเกิดเห็นว่า ธุกิจของคุณมีจริงและน่าเชือถือ อย่างน้อยๆก็ดูจากจำนวนคนที่เข้ามาเยี่ยมชม นอกจากนั้นการเขียน วิจารณ์ จะทำให้คุณสามารถใ่ส่คำสำคัญลงไปได้สะดวกขึ้น
อย่าพยายามเขียนวิจารณ์ผิดช่อง เพราะ Google มีเทคโนโลยีการตรวจสอบ เมื่อพวกเขาตรวจพบ พวกเขาก็จะลดความน่าเชื่อถือเพราะคุณกรอกผิด เชื่อว่าคุณมีสินค้าและบริการที่ดีจริง และลูกค้าคุณก็พร้อมจะเขียนวิจารณ์สินค้าของคุณไปในทางที่ดีแน่นอน
อย่าเชื่อว่าว่าเว็บไซต์ของคุณเพียงเว็บเดียว จะถูกกูเกิลหาเจอได้ เพราะ หากกูเกิลจำแนกประเภทผลการค้นหาโดยใช้ สถานที่เป็นเกณฑ์ในการแสดง ผลการค้นหา 7 ลำดับแรกที่กูเกิลจะแสดงนั้นก็จะมาจาก Google Place ฉะนั้นใช้ google place เชื่อมโยงเว็บคุณ แล้วลูกค้าคุณก็จะพบร้านของคุณได้ง่ายขึ้น